เวลาหน้าจอของบุตรของท่าน: ระวังเรื่องประเภทและเวลา
สื่อบนหน้าจอทำให้เข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว โดยสื่อมีการนำเสนอผ่านภาพและเอฟเฟคเสียงที่น่าดึงดูดใจ สื่อบนหน้าจอได้กลายเป็นหนึ่งในสื่อการเรียนรู้สามัญสำของเด็ก อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อสงสัยในเรื่องผลกระทบถาวรต่อการเรียนรู้ของทารกและเด็กก่อนวัยเรียนจากอุปกรณ์หน้าจอ การวิจัยระดับสากลได้ยืนยันว่ากิจกรรม "เวลาหน้าจอ" เป็นกิจกรรมที่ใช้เวลาส่วนมากจดจ่ออยู่กับที่ และการดูหน้าจอมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อเด็ก องค์การอนามัยทั่วโลกจึงแนะนำให้จำกัดเวลาการดูหน้าจอของเด็ก กรมอนามัยฮ่องกงได้ปฏิบัติตามแนวทางองค์การอนามัยโลกและได้แนะนำผู้ปกครองว่าควรจำกัดเวลาดูหน้าจอไม่ควรเกิน 1 ชั่วโมงต่อวันสำหรับเด็กอายุ 2 ถึง 5 ขวบ และควรหลีกเลี่ยงไม่ให้เด็กที่อายุ 2 ขวบหรือต่ำกว่าใช้อุปกรณ์หน้าจออิเล็กทรอนิกส์ใด ๆ เว้นแต่ดูวิดีโอสนทนาโต้ตอบภายใต้การแนะนำของผู้ปกครอง อย่างไรก็ตามเวลาการดูหน้าจอของเด็กนั้นก็เพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อพวกเขาต้องอยู่ในบ้านเพราะพวกเขาต้องใช้หน้าจอเพื่อการศึกษาโดยครอบครัว เพื่อติดต่อผู้คนในสังคมผ่านวิดีโอแชท หรือใช้เพื่อฆ่าเวลาช่วงโรคระบาด ในขณะที่ดำเนินการจำกัดเวลาการใช้อุปกรณ์นั้นผู้ปกครองมีการเลือกอุปกรณ์หน้าจอที่เหมาะสมอย่างไรและมีการเลือกกิจกรรมที่ทำให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างไร? ท่านอาจพิจารณา "3 Cs" ด้านล่างนี้:
เด็ก (Child):
- เลือกตาม อายุ ความสามารถ และ ความชอบ ของเด็ก
- ทบทวนประสิทธิภาพของเด็ก (เช่น พวกเขาสนใจกิจกรรมบนหน้าจอหรือเปล่า การเรียนรู้มีประสิทธิภาพแค่ไหน) เป็นประจำเพื่อตัดสินใจว่ากิจกรรมบนหน้าจอนั้นเหมาะสมหรือไม่
บริบท (ที่มีการใช้สื่อบนหน้าจอ) (Context):
- ผู้ปกครองเป็นตัวบริบทที่สำคัญที่สุดสำหรับการใช้อุปกรณ์หน้าจอของเด็ก! งานวิจัยจำนวนมากแสดงให้เห็นว่าหากไม่มีการชี้แนะอย่างต่อหน้าจากผู้ใหญ่ ทารกและเด็กวัยหัดเดินจะนำสิ่งที่เรียนผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ไปใช้ในชีวิตจริงได้น้อยกว่าและการเรียนรู้นั้นก็จะมีประสิทธิภาพน้อยลงอย่างมาก เด็กเล็กสามารถเรียนรู้ได้ดีกว่าหากมีผู้ใหญ่คอยให้คำอธิบายเพิ่มเติม คอยตอบคำถาม และคอยช่วยประยุกต์เนื้อหามาใช้ในชีวิตประจำวัน
เนื้อหา (Content):
การพิจารณาคุณภาพกิจกรรมบนหน้าจอ
เนื้อหาที่เหมาะสม | เนื้อหาที่ไม่เหมาะสม |
---|---|
|
|
นอกจากนี้ "3 Cs" แนะนำให้ผู้ปกครองพิจารณา "4 Ss" ด้านล่างนี้เพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดจากการใช้งานหน้าจอ
- ยึดกฏแต่ไม่ใช้มากจนเกินไป (Stay with rules without
overuse)
- ตั้งกฏแบบง่าย ๆ สำหรับการใช้อุปกรณ์หน้าจอให้เด็กล่วงหน้า ประกอบไปด้วยเวลาและสถานที่ในการใช้อุปกรณ์หน้าจอ การจำกัดเวลา และ กฏต่าง ๆ เช่น "ให้ขอพ่อ/แม่ก่อนใช้งาน" และกำหนดเวลาและสถานที่ที่ "ห้ามใช้อุปกรณ์หน้าจอ" เช่น ห้ามใช้ในห้องนอนหรือระหว่าง / หลังรับประทานอาหารเย็น ไม่ควรใช้หน้าจอนานเกินไปและสามารถหลีกเลี่ยงความขัดแย้งได้หากมีการตั้งข้อจำกัดล่วงหน้า
- เนื่องจากเด็กก่อนวัยเรียนยังไม่เข้าใจแนวคิดเรื่องเวลา ผู้ปกครองจึงสามารถแจ้งเตือนหรือเตือนความจำล่วงหน้าก่อนที่กิจกรรมบนหน้าจอจะจบลง เช่น การใช้อุปกรณ์อย่าง ตัวจับเวลา นาฬิกาทราย หรือการบอกกับบุตรล่วงหน้าว่า "พ่อ/แม่จะปิดเครื่องเมื่อรายการจบ"
- อยู่อย่างสุขภาพดีในชีวิตประจำวัน (Stay healthy with
routines)
- ผู้ปกครองควรสร้างกิจวัตรประจำวันให้กับเด็กเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้เวลากับหน้าจอและจัดหากิจกรรมที่สนุกเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ดิจิตอลมากเกินไป คลิกการร่วมสนุกกับบุตรของท่านเมื่อต้องอยู่แต่ในบ้านเพื่อทราบข้อมูลเพิ่มเติม
- อย่าลืมออกกำลังกายที่บ้าน! ผู้ปกครองและบุตรอาจลอง เกมออกกำลังกายสำหรับผู้ปกครอง-บุตร แนะนำโดย StartSmart@school.hk
- ปกป้องสายตาเมื่อใช้อุปกรณ์หน้าจอ ผู้ปกครองได้รับการแนะนำให้เลือกหน้าจอที่ใหญ่กว่าสำหรับการเรียนออนไลน์ของเด็ก เพื่อให้แน่ใจว่ามีพื้นที่เพียงพอ และทำให้ตำแหน่งการนั่ง ระยะห่าง มุมการมอง และความสว่างหน้าจอเหมาะสมเพื่อลดอันตรายต่อสายตา ผู้ปกครองสามารถดูที่ การใช้อินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์หน้าจออิเล็กทรอนิกส์อย่างปลอดภัย จากกรมอนามัยสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม
- อยู่ให้ห่างจากการใช้ “จุกนมหลอกอิเล็กทรอนิกส์” (Stay away
from “electronic pacifier”)
- ผู้ปกครองรู้หรือไม่ว่าสามารถอนุญาตให้บุตรใช้อุปกรณ์หน้าจอในโอกาสใดได้บ้าง เมื่อท่านหรือบุตรของท่านอารมณ์เป็นกลาง ไม่ขึ้น ๆ ลง ๆ เมื่อท่านรู้สึกเหนื่อย เมื่อบุตรของท่านรู้สึกเบื่อ อุปกรณ์หน้าจอจะเป็นสิ่งที่คอยแก้ปัญหาและใช้เป็นรางวัลให้แก่บุตร
- กิจกรรมบนหน้าจอมักมีเวทมนตร์ที่สามารถสงบใจของเด็กได้อย่างทันทีทันใดและทำให้ท่านผู้ปกครองได้มีเวลาพัก แต่หากเด็กต้องพึ่งอุปกรณ์ในการจัดการกับอารมณ์เชิงลบและใช้ฆ่าเวลาแบบไม่เกิดประโยชน์ เขาก็จะไม่สามารถเรียนรู้การควบคุมอารมณ์และควบคุมตนเองได้
- หากท่านพบว่าตัวท่านพึ่งพาการใช้อุปกรณ์หน้าจอเพื่อแก้ปัญหาพฤติกรรมและปัญหาทางอารมณ์ของบุตร ท่านต้องทบทวนการอบรมบุตรของท่าน และท่านต้องหากิจกรรมทางเลือกและรางวัลมาแทนที่การใช้อุปกรณ์หน้าจอนั้น ผู้ปกครองอาจปรึกษากับสมาชิกคนอื่นๆในครอบครัวและมองหาความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ
- o หากท่านต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการอบรมบุตร ท่านสามารถดูแผ่นพับเรื่อง การอบรมเด็กวัยหัดเดินของท่านในเชิงบวกการจัดการพฤติกรรมของเด็กก่อนวัยเรียน I และ II
- เป็นบุคคลต้นแบบ (Set a role model)
- การศึกษาแสดงให้เห็นว่าแบบอย่างการใช้อุปกรณ์ของผู้ปกครองไม่เพียงแต่ส่งผลต่อปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ปกครองและบุตร แต่ยังกระตุ้นให้บุตรเลียนแบบตาม ท่านมักจะใช้อุปกรณ์หน้าจอโดยไม่รู้ถึงข้อเท็จจริงนี้ใช่ไหม ท่านได้รับการเบี่ยงเบนความสนใจจากข้อความอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งทำให้ท่านออกห่างจากการมีส่วนร่วมกับบุตรของท่าน หรือทำให้ท่านไม่ได้ตอบสนองความต้องการบุตรของท่านอย่างทันท่วงทีใช่หรือไม่ ท่านควรออกห่างอุปกรณ์หน้าจอของท่านและไม่ดูมันระหว่างทำกิจกรรมผู้ปกครองและบุตรเพื่อให้ตนเองอยู่กับบุตรของท่านและแสดงวิธีการที่ดีต่อการใช้อิเล็กทรอนิกส์
- ท่านมักเปิดโทรทัศน์ทิ้งไว้ที่บ้านและปล่อยให้บุตรของท่านดูหน้าจอโทรทัศน์ หรือท่านดูรายการที่ไม่เหมาะสมร่วมกับบุตรของท่านใช่หรือไม่ การศึกษาพบว่าการกระทำนี้อาจส่งผลเชิงลบต่อพัฒนาการของเด็ก
- เป็นเรื่องปกติที่สมาชิกในครอบครัวจะมีความคิดที่แตกต่างกันในเรื่องอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผู้ปกครองจำเป็นต้องระวังในเรื่องการเป็นแบบอย่างและทัศนคติในการใช้อุปกรณ์หน้าจอของตนเองและของสมาชิกคนอื่นๆในครอบครัว ผู้ปกครองจำเป็นต้องคุยกับสมาชิกในครอบด้วยมุมมองหลายๆอย่างและคิดหาวิธีการปฏิบัติในการใช้อุปกรณ์หน้าจอที่บุตรยอมรับได้