คุณสามารถช่วยให้เด็กก่อนวัยเรียนของคุณมีความยืดหยุ่นโดยการสร้างคุณสมบัติภายในตัวเองและเพิ่มปัจจัยในสภาพแวดล้อมของเธอ ในขณะที่ส่วน I อธิบายถึงคุณภาพภายในเด็กที่ช่วยเรื่องการยืดหยุ่น เอกสารนี้จะนำเสนอปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมที่มีความสำคัญเท่าเทียมกัน รวมถึงการสนับสนุนจากพ่อแม่ การเลี้ยงดูในเชิงบวกและการร่วมมือกับโรงเรียน

การเสริมสร้างความเข้มแข็งในสิ่งแวดล้อมของเด็ก

ให้การสนับสนุน

• เด็กจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนเมื่อประสบปัญหา:
  • สร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับลูกของคุณตั้งแต่วัยเด็ก พูดคุยและเล่นกับเขา เขาจะพัฒนาความไว้วางใจในตัวคุณและหันมาหาคุณเมื่อต้องการความช่วยเหลือ
  • การให้การสนับสนุนทางอารมณ์แก่ลูกของคุณในช่วงเวลาที่ยากลำบากและผิดหวังเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าสิ่งอื่นใด การกอดหรือคำปลอบโยนจะช่วยปลอบเขา ตัวอย่างเช่น เมื่อเขาร้องไห้เพราะบล็อกตัวต่อตกซึ่งเขาใช้เวลาหลายชั่วโมงในการสร้างมันขึ้นมา แทนที่จะพูดว่า 'จะร้องไห้ทำไม? เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้ ' คุณควรจะยอมรับความรู้สึกของเขาด้วยการพูดว่า 'โอ้ไม่! มันเป็นปราสาทที่สวยงาม หนูต้องเสียใจมากๆ เลย' จากนั้นให้กำลังใจเขาว่า 'มาสร้างอันที่สวยกว่านี้กันเถอะ'
  • เพื่อส่งเสริมความเป็นอิสระ ควรสนับสนุนลูกของคุณให้แก้ปัญหาด้วยตัวเอง ในทางกลับกัน พร้อมที่จะให้คำแนะนำและให้ความช่วยเหลือในทางปฏิบัติเมื่อเห็นชัดว่าเขาไม่สามารถจัดการกับสถานการณ์ได้ ลูกของคุณจะพบว่าจัดการช่วงเวลาที่มีปัญหาได้ง่ายกว่าเมื่อมีคุณที่พร้อมที่จะให้การสนับสนุนที่จำเป็น
  • กระตุ้นให้ลูกของคุณขอความช่วยเหลือเมื่อเขาไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์ได้ เป็นแบบอย่างและแสดงให้เขาเห็นว่าจะขอความช่วยเหลือได้อย่างไร ด้วยการทำเช่นนี้ คุณได้ปลูกฝังความคิดเรื่องการขอความช่วยเหลือไว้ในใจของลูกคุณ

การเลี้ยงดูที่เชิงบวก

การเลี้ยงดูเชิงบวกใช้วิธีการสร้างสรรค์และไม่เป็นอันตรายในการส่งเสริมการพัฒนาพฤติกรรมทางสังคมและแนวคิดในเชิงบวกในตัวลูกของคุณ มันเกี่ยวข้องกับการเป็นแบบอย่าง การกระตุ้น พฤติกรรมที่พึงประสงค์ในลูกของคุณและช่วยให้เธอเรียนรู้กฎ ข้อจำกัด และผลที่ตามมา มันจะช่วยปลูกฝังความรู้สึกของความรับผิดชอบและการควบคุมตัวเองและจะช่วยส่งเสริมทักษะการสื่อสารและการแก้ปัญหาในลูกของคุณ ความสามารถทั้งหมดเหล่านี้ช่วยเรื่องความยืดหยุ่น

• การตัวอย่างที่ดี
  • 'ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น' โดยการมองคุณเป็นต้นแบบและเลียนแบบตัวอย่างที่ดีของคุณ ลูกของคุณจะสามารถสร้างพฤติกรรมที่พึงปรารถนาและคุณค่าที่ดีขึ้นได้
• กระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมในเชิงบวกที่ช่วยให้เกิดความยืดหยุ่น
  • ในตอนแรก ลูกของคุณต้องการคำชมจากคุณบ่อยๆ เพื่อสร้างพฤติกรรมที่พึงปรารถนา ความสนใจของคุณจะเพิ่มความถี่ของพฤติกรรมที่พึงประสงค์
  • เมื่อพฤติกรรมของเธอมั่นคงมากขึ้น คุณอาจค่อยๆลดการชมเชยของคุณ อย่างไรก็ตาม คุณยังคงต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษกับเธอ การรับรู้และการสนับสนุนเป็นครั้งคราวช่วยคงไว้ซึ่งพฤติกรรมที่พึงประสงค์
• จำกัดการตั้งค่า
  • การกำหนดข้อจำกัดที่เหมาะสมอาจช่วยปลูกฝังวินัยในตนเองและความรับผิดชอบในลูกของคุณ
  • พูดคุยเกี่ยวกับกฎและข้อจำกัดที่คุณต้องการให้เธอทำตาม ตรวจสอบว่ามีความชัดเจน เฉพาะเจาะจง ในระยะเวลาที่เป็นบวกและอายุที่เหมาะสม ตัวอย่างเช่น 'การเปลี่ยนเสื้อผ้าเองหลังจากเลิกเรียน' อาจเป็นกฎที่เหมาะสำหรับเด็กวัย 5 ขวบ แต่ไม่เหมาะสำหรับเด็กอายุ 3 ขวบ

• ใช้ระเบียบวินัยที่เหมาะสมกับผลกระทบสำรอง
  • เตรียมลูกของคุณล่วงหน้าเกี่ยวกับผลที่ตามมาที่เธอจะได้รับถ้าเธอไม่ปฏิบัติตามกฎ
  • ให้เธอเรียนรู้ที่จะรับผิดชอบต่อพฤติกรรมของตัวเอง ตัวอย่างเช่น เธอต้องเรียนรู้ว่าเธอจะไม่ได้ของเล่นมาแทนของเล่นที่หายไปเพราะความประมาท หรือเธอจะต้องโดนทำโทษเข้ามุมถ้าเธอตีน้องของเธอ
  • ผลที่ตามมาต้องเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ ไม่ควรให้มีการใช้ผลกระทบที่ทำให้รู้สึกเจ็บปวด เช่น ตะโกนใส่เด็กการตีหรือการทำให้เด็กอาย
  • แน่วแน่และมั่นคงในการปฏิบัติตามกฎระเบียบและผลที่ตามมา
  • คุณอาจกังวลเกี่ยวกับการใช้ระเบียบวินัยที่เด็ดขาดจะทำให้เด็กไม่พอใจหรือแม้แต่เกลียดคุณการเลี้ยงดูเชิงบวกหมายถึงการรักษาความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและมีความสามัคคีกับลูกของคุณในขณะที่กำหนดขอบเขตที่ชัดเจนสำหรับเธอ เมื่อจำเป็นต้องใช้ผลที่ตามมาสำหรับการกระทำผิดของเธอ คุณต้องชี้ชัดให้เด็กทราบว่าเป็นที่พฤติกรรมและไม่ใช่ที่ตัวเธอที่คุณไม่ชอบ เมื่อทำเช่นนั้น ระเบียบวินัยนั้นจะช่วยให้เธอเรียนรู้ที่จะต้องรับผิดชอบและทำให้การคาดหวังของคุณเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ ลูกของคุณจะมีปัญหาทางอารมณ์และพฤติกรรมน้อยลงและความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับลูกของคุณจะมีความมั่นคงมากขึ้น

เอกสาร 15 และ 16 ในชุดการเลี้ยงดูบุตรนี้ได้อธิบายถึงวิธีการเลี้ยงดูในเชิงบวกในรายละเอียดเพิ่มเติม

ร่วมมือกับโรงเรียน

สถานรับเลี้ยงเด็กและโรงเรียนเป็นสถานที่ที่ลูกของคุณใช้เวลาหลายชั่วโมงนอกเหนือจากที่บ้าน ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะเลือกหนึ่งที่ที่ให้ความสำคัญในสิ่งเดียวกันกับคุณ พิจารณาว่า:

• หลักสูตรมีส่วนช่วยในการพัฒนาปัจจัยที่ช่วยเรื่องความยืดหยุ่น ตัวอย่างเช่นทักษะการสื่อสารและการแก้ปัญหารวมอยู่ในหลักสูตรและจุดแข็งของเด็ก ๆ ได้รับการพัฒนาหรือไม่
• ครูตระหนักถึงความสำคัญของการช่วยเรื่องความยืดหยุ่นที่โรงเรียน
• มีความอบอุ่น การให้คำแนะนำและการสนับสนุนจากครู

การร่วมมือกันระหว่างพ่อแม่และครูเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการช่วยเรื่องความยืดหยุ่นของเด็ก:

• ติดต่อสื่อสารอย่างใกล้ชิดกับครูเกี่ยวกับการรับมือของลูกของคุณในโรงเรียนและที่บ้าน พูดคุยกับพวกเขาเกี่ยวกับวิธีการปรับปรุงพฤติกรรมของลูกอย่างสร้างสรรค์ ลองทำตามคำแนะนำของครูเพื่อกระตุ้นลูกของคุณและแจ้งให้ครูทราบถึงพฤติกรรมที่พึงประสงค์ของเขาที่บ้าน นอกจากนี้คุณยังสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับพฤติกรรมของเขาในโรงเรียนและให้คำแนะนำแก่ครูได้เมื่อจำเป็น
• มีบทบาทอย่างแข็งขันในการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆที่จัดขึ้นสำหรับผู้ปกครองที่โรงเรียน เช่น การพูดคุยการฝึกอาสาและกิจกรรมร่วมกันระหว่างผู้ปกครองกับครู ในขณะที่คุณสามารถใช้โอกาสในการจัดเตรียมความรู้และทักษะในการเลี้ยงลูก คุณยังสามารถเป็นแบบอย่างของการกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้สำหรับลูกของคุณอีกต้วย

วันพ่อแม่

• เมื่อลูกเห็นแรงจูงใจของคุณในการเข้าร่วมกิจกรรมของโรงเรียน เขาจะมีส่วนร่วมมากขึ้นในชีวิตในโรงเรียน มันจะช่วยเสริมความรู้สึกของการเป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียนและเพิ่มโอกาสในการขอความช่วยเหลือจากโรงเรียนเมื่อต้องการ

เช่นเดียวกับการเสริมสร้างคุณสมบัติและทักษะอื่น ๆ ปัจจัยการพัฒนาความยืดหยุ่นในเด็ก ๆ จะขึ้นอยู่กับความอดทน ความอดกลั้นและความพยายามของคุณ มันเป็นกระบวนการที่ยาวนาน ด้วยความรักและความห่วงใยของคุณ ลูกของคุณพร้อมแล้วที่จะเริ่มต้นเดินทางของความยืดหยุ่น

เรามีชุดการประชุมเชิงปฏิบัติการและเอกสารชุด "การเลี้ยงลูกอย่างมีความสุข!" สำหรับพ่อแม่ที่คาดหวังและพ่อแม่ของทารกและเด็กก่อนวัยเรียน กรุณาติดต่อเจ้าหน้าด้านการดูแลสุขภาพเพื่อสอบถามข้อมูล